นายกฯ ขออย่าเทียบกับเทวดา ยัน ไม่ได้ให้ ส.ส.พท.มารับ ไร้สาระ อย่าโจมตีนายกฯ ขออย่าเทียบกับเทวดา ยัน ไม่ได้ขอให้ ส.ส. เพื่อไทย มาต้อนรับ อย่าโจมตี ไร้สาระ ย้ำ
เอกสารโครงข่ายขบวนการทำลายชาติ ติดกระเป๋ามา ไม่เข้าใจถ่ายทำไม จะพักผ่อนอิริยาบถ เลยต้องทำหน้าหล่อตลอด
วันที่ 20 ก.ย. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังประชุมสภากลาโหม ว่า ช่วงนี้ได้เจอกันบ่อยเพราะต้องดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม และได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับส่วนราชการทั้งหมดลงพื้นที่เพื่อดูแลประชาชนเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ถือว่าดีขึ้นบ้าง บางพื้นที่น้ำลด แต่บางพื้นที่ก็ยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ จึงเริ่มมีการพิจารณาแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งเมื่อวานนี้ในการลงพื้นที่ก็ได้มอบนโยบายในการฟื้นฟูหลังน้ำลดให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมไปแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายทั้งในเรื่องของถนน โดยการสำรวจถนนที่เสียหายกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ปศุสัตว์ และพืชผลทางการเกษตร ซึ่งจะนำมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลดไปหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ส่วนที่มีข่าวสารว่า มีคำบัญชาให้พสกนิกร ย้ายจากจุดที่พักที่อาศัยชั่วครั้งคราวเพราะว่าเป็นทางนาชูรัฐมนตรีจะเดินทางผ่านนั้น นายกฯ พูดว่า นี่เป็นการชี้ให้เห็นถึงกระทำการใช้สื่อโซเชียลที่ผิดจำเป็นต้อง ซึ่งถนนหนทางเส้นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นที่มีการซ่อมนั้น เป็นหลักที่ที่น้ำเริ่มลดแล้ว ข้าราชการก็เลยได้มีการปรับแก้ผิวการจราจร แล้วก็ที่ให้ประชาชนย้ายถิ่นออกมาจากพื้นที่พักอาศัยชั่วครั้งคราวนั้น เนื่องจากว่ามีความเห็นว่า น้ำเริ่มลดและก็อัตลักษณ์ของคนประเทศไทยอยากได้อยู่ใกล้กับบ้านของตน ซึ่งทางเหล่าทัพ ก็พร้อมให้ความให้การช่วยเหลือพลเมือง ที่ยังอยากพักอาศัยในบ้านพักชั่วครั้งชั่วคราว และก็ตนเองได้ย้ำให้ใช้มาตรการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความประนีประนอม และก็เต็มใจจากทั้งยัง 2 ข้าง พร้อมกับดูแลกันให้ดีเยี่ยมที่สุดอีกทั้งทางร่างกาย แล้วก็จิตใจ ช่วงเวลาเดียวกัน ย้ำให้รัฐมนตรีทุกคนผลัด เวียนไปเยี่ยมสามัญชนให้มากเพิ่มขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่ตนเองไม่อยู่
พร้อมกันนี้ ได้เตรียมงบประมาณในการช่วยเหลือฟื้นฟูเบื้องต้นไว้หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งในการให้เงินช่วยเหลือนั้น จะเป็นการให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เช่น หลังละ 30,000 บาท แต่หากไม่เพียงพอก็จะเพิ่มให้เป็น 50,000 บาท โดยจะนำกำลังทหารเข้าไปช่วยในการซ่อมแซม ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถนำเงินไปแจกให้กับประชาชนโดยตรง เพราะต้องมีแผนงานและเงินบริจาคดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ สตง. จึงต้องมีวิธีการใช้เงินตามที่กฎหมายกำหนด หากมีการแก้กฎหมาย แล้วนำเงินไปแจกให้โดยตรง ในอนาคตจะมีการนำเงินไปใช้จนก่อให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณตามมา ส่วนตัวขอให้กำลังใจกับผู้ที่นำเงินไปแจกให้กับประชาชนซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
“สำหรับในการที่ข้างการบ้านการเมืองมีปฏิกิริยาโต้ตอบจากที่ตนเองได้เอ่ยถึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ว่าไม่ลงพื้นที่ รวมทั้งมีการกล่าวว่า ตนเองอยากให้คนมาต้อนรับด้วยนั้น นายกฯ การันตี ตนเองมิได้อยากให้ผู้ใดมาต้อนรับ สามารถลงพื้นที่เองได้แม้กระนั้นที่ถามหานั้น เพราะว่าอยากรู้ภาวะชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งความอยากได้ของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกพรรคการเมืองจำต้องร่วมมือกัน แล้วก็เป็นการเปลี่ยนแปลงการบ้านการเมือง แล้วที่มีการกระทบกระเทียบว่า ตนเองเป็นทวยเทพเทวดานั้น อย่าเอาตนเองไปยุ่งกับเทพ อย่าเอาการอย่างงี้มาจู่โจมมากมายมาน เนื่องจากเกิดเรื่องไม่เป็นประโยชน์” นายกฯ กล่าว…
ส่วนเรื่องที่จะมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยกันเสนอชื่อให้สอบศีลธรรมของตนเองนั้น นายกฯ บอกว่า คนไหนต้องการสอบก็สอบไป ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาตนเองนับถือในแนวทางการด้านกฎหมายทั้งหมดทุกอย่างไม่ว่า จะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งในเรื่องอื่นๆที่ได้โดนตรวจดูมาแล้ว การันตีว่า ตนเองไม่หนี แล้วก็พร้อมให้ตรวจทานทุกเรื่อง
ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบนั้น หัวข้อนี้ได้ให้ นายวิษณุ เครือสวย รองนายกฯ อธิบายไปแล้ว แต่ว่าที่ยังมีผู้พึงใจว่า คำอธิบายไม่กระจ่าง ก็เกิดเรื่องที่ตนเองทราบว่า มีคนอยากได้ให้นายกฯกล่าวเอง และก็ปรารถนาให้บอกอะไรสักอย่าง ซึ่งเกิดเรื่องที่ต้องระวังสำหรับในการที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความสัมพันธ์ต่างๆและก็จำเป็นต้องรับผิดชอบคำกล่าวทุกคำ และก็ที่ไม่ต้องการพูดไพเราะทุกคนเป็นคนประเทศไทยร่วมกัน ไม่ต้องการที่จะอยากสู้กับชาวไทยร่วมกันเอง ควรจะเอาเวลาไปสู้กับปัญหาอื่นๆดีมากยิ่งกว่า อีกทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศ เศรษฐกิจโลก แล้วก็ปัญหาความทุกข์ร้อนของสามัญชน เหมือนกันกับที่มีการตระเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเองนั้น พร้อมที่จะให้อภิปราย แต่ว่าขอให้ทุกคนอย่าลืมว่าชาติพบเจอกับอะไรมา ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาคนไหนทำอะไรไว้บ้าง
นายกฯ ยังอธิบายถึงเอกสารเครือข่ายกรรมวิธีทำลายชาติ ซึ่งปรากฏอยู่บนโต๊ะของตนเองในวันอภิปรายทั่วๆไป ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณ การันตีไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มีการแปลความหมายกระทบ หรือไปเชื่อมโยงกับผู้ใดกันแน่ แม้กระนั้นเป็นเอกสารเรื่องเนื้อหาของความมั่นคงและยั่งยืนในหลายเรื่อง ทั้งยัง สารเสพติด และก็เหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ แล้วก็เอกสารดังที่กล่าวถึงมาแล้วบังเอิญติดกระเป๋ามา ก็เลยนำออกมามอง แต่ว่าสื่อก็มาถ่ายรูปแล้วก็ค่อยนำไปเชื่อมโยงในจังหวะที่มีผู้กำลังอภิปราย ส่วนตัวไม่รู้เรื่องว่า เพราะเหตุไรจำต้องมาถ่ายภาพ ตนเองจะพักท่าทางบ้าง จะต้องทำหน้ายิ้มหน้าหล่อตลอดระยะเวลา ปัจจุบันนี้ก็ยิ้มตลอด ยิ้มสู้กับสิ่งที่ควรจะสู้ ไม่ใช่สู้กับคนภายในชาติคุ้นเคย
สำหรับแนวความคิดการย้ายเมืองหลวง ที่ผู้รายงานข่าวอาวุโสถามนั้น นายกฯ รับรองเป็นเพียงแค่แนวความคิดที่จะรองรับการเจริญเติบโตของราษฎรในอนาคตแล้วก็กระจัดกระจายความเจริญรุ่งเรืองของจังหวัดกรุงเทพมหานคร ให้ไปอยู่รอบๆรอบนอกบ้าง เพื่อไม่ให้กำเนิดความคับแคบมากจนเกินความจำเป็น แต่ว่าก็จะต้องฟังข้อคิดเห็นของประชากรด้วย เพราะเหตุว่าธรรมชาติของมนุษย์ไทยรังเกียจความเคลื่อนไหว นักข่าวถามต่อว่าต่อขาน ตนเองแก่แล้วจะอยู่ถึงวันนั้นไหม นายกฯ ตอบกลับแบบชวนขันว่า อยู่ถึงแล้วก็ขอให้อยู่ถึงร้อยปีไปเลย
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ หวยหุ้น