ข่าวหวย ครูกายแก้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ต่างก็ถกเถียงกัน “ครูกายแก้ว” ไม่ใช่เทพแต่เป็น “อสุรกาย” จริงหรือไม่?
หลายคนเชื่อว่า ครูกายแก้ว เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ช่วยให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ใดที่อยากขอพรเรื่องงาน ค้าขาย ขอยอดขายเพิ่ม ต้องมาขอพรกับท่าน
สำหรับ ครูกายแก้ว หรือ พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์ ที่มีการอ้างถึงความเป็นมาว่าเป็นผู้ที่มีตบะแก่กล้าเมื่อพันปีก่อน มีวิชาอาคมเรืองเวทย์มากท่านหนึ่งในยุคนั้น เมื่อสังขารจากไป แต่จิตวิญญาณที่แกร่งกล้าไม่ได้สลายไปด้วย เมื่อยังมีผู้สืบต่อวิชาของท่านมาเรื่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งพระธุดงค์ที่จังหวัดลำปางไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัด นครธม กัมพูชา และได้มอบครูกายแก้วให้กับลูกศิษย์ ซึ่งก็คือ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดา นักร้องเพลงไทยเดิมกองดุริยางค์ทหารสมัยนั้น
นายไพศาล พืชมงคล โพสต์ถึง ครูกายแก้ว ระบุว่า
สิ่งที่กำลังหลอกลวงให้ไขว้เขวกันอยู่ ครูกายแก้ว ไม่ใช่เทพอสูร เพราะเทพอสูร คือยักษ์ ที่ได้บำเพ็ญปฏิบัติธรรม จนบรรลุธรรมขั้นสูง คือชั้นพรหม จึงได้ชื่อว่า เป็นเทพอสูร เช่นท้าวลัสเตียน ซึ่งเป็นบิดาของทศกัณฐ์เป็นต้น ภูมิธรรมชั้นพรหมนี้ คือภูมิธรรมชั้นเดียวกันกับท้าวกบิลพรหม ซึ่งเป็นบิดาของนางสงกรานต์ทั้งเจ็ด
ครูกายแก้วไม่ใช่ มนุษย์ และไม่ใช่คนธรรพ์ ซึ่งอยู่ในภพภูมิที่สูงกว่าผีเปรตอสุรกาย และไม่ใช่บรมครูผู้ขมังเวทย์ แต่ท่านเป็นอสูรกาย ที่มีชาติภพภูมิเดิมเป็นนก ท่านไม่ใช่อาจารย์ของพระเจ้าสุริยะวรมัน ของขอมโบราณเลยบทสวดมนต์และคาถาที่ใช้ในวันนั้น เป็นบทบิดเบือนบทสวดในศาสนาพุทธ จนวิปริตไปสิ้น บทที่สวดอัญเชิญ แท้จริงก็คือบทชุมนุมเทวดา ซึ่งชาวพุทธจะคุ้นเคย เวลาพระจะเริ่มสวดพระปริตร ก็จะมีพระที่นั่งลำดับที่ 3 สวดบทชุมนุมเทวดาที่ขึ้นต้นด้วย สัคเคกาเมจะรูเป… ซึ่งแปลว่าบัดนี้เป็นเวลาฟังธรรมแล้ว ขอเชิญเหล่าเทพทั้งหลาย (ไม่ได้เชิญพวกอสูรกาย เพราะพวกนี้ไม่ฟังธรรม) ฟังธรรมของพระบรมศาสดาเถิด นี่ไม่ใช่บทอัญเชิญครูกายแก้วที่ใช้สวดในวันนั้น!!!